วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

.::TYPHON::.

อสูรกาย ไทฟอน Typhon


  อสูรกายไทฟอน( typhon ) และ อสูรกาย อิคิดนา ( Echidna )เป็นลูกของ กีอา( Gaea )หรือ จี พระแม่ธรณีซึ่งพระนางได้ให้กำเนิดมา ภายหลังที่ โครนัส ( Cronus ) ถูกโค่นบัลลังค์แล้ว เพื่อให้อสูรกายทั้งสอง ไปสู้รบกับ ซีอุส ( Zeus ) เทพเจ้าแห่งสายฟ้าผู้ยิ่งใหญ่  เพราะซีอุสได้จับกลุ่มเทพ ไททัน ไปขังไว้ในทาร์ทะรัส เนื่องจากเมื่อซีอุสซึ่งความจริงก็คือหลาน ของพระแม่ธรณี กีอา ช่วงชิงบัลลังค์มาแล้ว กลุ่มเทพไททันบางองค์ที่ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของราชาแห่งเทพเจ้าองค์ใหม่ และได้รวมกำลังกันต่อสู้ แต่ก็พ่ายแพ้แก่อำนาจของซีอุสผู้เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า ดังนั้นเพื่อตัดปัญหายุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง ซีอุสจึงจับกลุ่มเทพไททันไปขังไว้

   แม้พระแม่ธรณีกีอาได้ให้อสูรกายไทฟอนและภรรยาของมันคือ อสูรกายอิคิดนา ไปรบกับซีอุส แต่ก็พ่ายแพ้อย่างไม่มีทางสู้เช่นกัน                                  



ลักษณะและอิทธิฤทธิ์ของไทฟอน

   - ไทฟอนเป็นอสูรกายที่น่าเกลียดน่ากลัว มันมีหัวถึงหนึ่งร้อยหัว และหัวของมันสูงจนสามารถสัมผัส กับดวงดาวในท้องฟ้าน้ำตาของมันที่ใหลออกมามีพิษ และยังสามารถพ่นลาวาหรือหินหลอมเหลว อันร้อนแดงออกมาจากปากของมันได้อีกด้วย ลมหายใจของมันคล้ายเสียงขู่ฟ่อๆ ของงูร้อยตัวรวมกัน และเสียงดังคำรามดังคล้ายกับเสียงสิงโตสักร้อยตัวแต่บางตำนานบอกว่าไทฟอนนั้นมีร่างกายท่อนบน เป็นมนุษย์ส่วนท่อนล่างนั้นเป็นงูยักษ์ที่มีขนาดยาวนับร้อยไมล์ มีหัวเป็นลาขนาดใหญ่ และมีปีกเหมือนนกอินทรีย์ นอกจากนั้นนิ้วมือของไทฟอนยังเป็นงูอีกต่างหากเวลามันเคลื่อยตัวไปไหนจะเกิดเป็นลมพายุหมุนขนาดมหึมาเพราะอำนาจอิทธิฤทธิ์ของอสูรกายตัวนี้ ต่อมาคำว่าไทฟอนกลายเป็นไทฟูน( Typhoon ) หรือไต้ฝุ่นหมายถึงพายุหมุนนั่นเอง



   ในขณะที่อสูรกายไทฟอนกำลังยกภูเขาอีตนา (Aetna) อันมหึมาหมายทุ่มใส่เหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย ซีอุสก็จับสายฟ้าทั้งร้อยสาย ฟาดเปรี้ยงลงไปที่ภูเขาลูกนั้น ผลปรากฎว่าภูเขาขนาดมหึมาถึงกับถล่มลงมาฝังร่างของไทฟอนไว้  อสูรกายไทฟอนถึงจะไม่ตายแต่ก็โดนทับอยู่เช่นนั้นมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ และยังคงพ่นลาวาหรือหินหลอมเหลวออกมาจากทางยอดภูเขาไฟที่ทับมันไว้ กล่าวคือไทฟอนก็คือต้นกำเนิดภูเขาไฟนั่นเอง



   แต่อีกตำนานหนึ่งบอกว่าเมื่อเทพเจ้าซีอุสสามารถจัดการอสูรกายไทฟอนได้แล้ว กีอาพระแม่ธรณีจึงได้ให้กำเนิดอสูรกายขึ้นมาอีกตัวคือเอนเซลาดัส(Enceladus) เพื่อให้มันไปแก้แค้น แต่ก็ต้องพ่ายแพ้จึงถูกล่ามขังไว้ใต้ภูเขาและเปนผู้พ่นลาวาออกมาจากภูเขาไฟ

   ส่วนอิคิดนาหนีรอดไปได้ และหลบอาศัยอยู่ในถ้ำ ต่อมาได้ให้กำเนิดลูกๆ อสูรกายทั้ง 6  ซีอุสต้องการให้พวกมันเป็นเครื่องท้าทายของเหล่าวีรบุรุษในอนาคต จึงปล่อยพวกลูกๆของอสูรกายอิคิดนาไว้





อ่านต่อ :http://writer.dek-d.com/0012/story/viewlongc.php?id=446421&chapter=23#ixzz1HKj2QskP

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น